เมนู

[354] อขณะอสมัยแห่งพรหมจริยวาส 9


1. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย พ ระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธ-
เจ้า เสด็จอุบัติในโลกนี้ และพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็เป็นไปเพื่อ
ความสงบ เป็นไปเพื่อความดับ ให้ถึงความตรัสรู้ เป็นธรรมอันพระสุคต
ประกาศแล้ว. แต่บุคคลนี้เข้าถึงนรกเสีย นี้ มิใช่ขณะ มิใช่สมัยเพื่อการ
อยู่ประพฤติพรหมจรรย์ข้อที่หนึ่ง.
2. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นอีก พระตถาคตอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จอุบัติในโลก และธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็
เป็นไปเพื่อความสงบ เป็นไปเพื่อความดับ ให้ถึงความตรัสรู้ เป็นธรรม
อันพระสุคตประกาศแล้ว. แต่บุคคลนี้ เข้าถึงกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานเสีย นี้
มิใช่ขณะ มิใช่สมัยเพื่อการอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ข้อที่สอง.
3. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นอีก พระตถาคตอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จอุบัติในโลก และธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็เป็น
ไปเพื่อความสงบ เป็นไปเพื่อความดับ ให้ถึงความตรัสรู้ เป็นธรรมอัน
พระสุคตประกาศแล้ว. แต่บุคคลนี้เข้าถึงวิสัยแห่งเปรตเสีย ฯลฯ ข้อที่สาม.
4. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นอีก พระตถาคตอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จอุบัติในโลก และธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็เป็น
ไปเพื่อความสงบ เป็นไปเพื่อความดับ ให้ถึงความตรัสรู้ เป็นธรรมอัน
พระสุคตประกาศแล้ว. แต่บุคคลนี้เข้าถึงอสุรกายเสีย ฯลฯ ข้อที่สี่.
5. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นอีก พระตถาคตอรหันต-

สัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จอุบัติในโลก และธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็เป็น
ไปเพื่อความสงบ เป็นไปเพื่อความดับ ให้ถึงความตรัสรู้ เป็นธรรมอัน
พระสุคตประกาศแล้ว. แต่บุคคลนี้เข้าถึงพวกเทพที่มีอายุยืน พวกใดพวก
หนึ่งเสีย ฯลฯ ข้อที่ห้า.
6. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นอีก พระตถาคตอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จอุบัติในโลก และธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็เป็น
ไปเพื่อความสงบ เป็นไปเพื่อความดับ ให้ถึงความตรัสรู้ เป็นธรรมอัน
พระสุคตประกาศแล้ว แต่บุคคลนี้ เกิดเสียในปัจจันติมชนบท ในพวก
ชนชาติมิลักขะ ผู้โง่เขลา ไม่มีคติของภิกษุ ภิกษุณีอุบาสก อุบาสิกา ฯลฯ
ข้อที่หก.
7. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นอีก พระตถาคตอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จอุบัติในโลก และธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็เป็น
ไปเพื่อความสงบ เป็นไปเพื่อความดับ ให้ถึงความตรัสรู้ เป็นธรรมอัน
พระสุคตประกาศแล้ว. บุคคลนี้ เกิดในมัชฌิมชนบท แต่เขาเป็นคนมิจฉา-
ฑิฏฐิ มีความเห็นวิปริตว่า ทานที่บุคคลให้ไม่มีผล การบูชาไม่มีผล
ยัญที่บูชาแล้ว ไม่มีผล ผลวิบากของธรรมที่บุคคลทำดีทำชั่วไม่มี
โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดาไม่มี บิดาไม่มี โอปปาติกสัตว์ไม่มี
ในโลกไม่มีสมณพราหมณ์ ผู้ดำเนินไปดี ผู้ปฏิบัติโดยชอบ กระทำ
ให้แจ้งซึ่งโลกนี้และโลกหน้าด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองแล้วยังผู้
อื่นให้รู้ ฯลฯ
ข้อที่เจ็ด.
8. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นอีก พระตถาคตอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จอุบัติในโลก และธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็เป็น

ไปเพื่อความสงบ เป็นไปเพื่อความดับ ให้ถึงความตรัสรู้ เป็นธรรมอัน
พระสุคตประกาศแล้ว บุคคลนี้เกิดในมัชฌิมชนบท แต่เป็นคนโง่ เซอะซะ
เป็นคนใบ้ ไม่สามารถที่จะรู้อรรถแห่งสุภาษิตและทุพภาษิตได้ ฯลฯ ข้อที่
แปด.
9. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย อึกข้อหนึ่ง พระตถาคตอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้า มิได้เสด็จอุบัติในโลก และธรรมที่เป็นไปเพื่อความสงบ
เป็นไปเพื่อความดับ ให้ถึงความตรัสรู้ เป็นธรรมอันพระสุคตประกาศไว้
ไม่มีผู้ใดแสดง ถึงบุคคลนี้เกิดในมัชฌิมชนบท เป็นคนมีปัญญา ไม่เซอะซะ
ไม่เป็นคนใบ้ สามารถที่จะรู้อรรถแห่งสุภาษิต และทุพภาษิตได้ นี้ ก็มิใช่
ขณะ มิใช่สมัย เพื่อการอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ข้อที่เก้า

[355] อนุปุพพวิหาร 9


1. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ สงัดจาก
กามทั้งหลาย สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย เข้าถึงปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร
มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่.
2. ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ เข้าถึงทุติยฌาน มีความผ่องใส
แห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะวิตกวิจารสงบ ไม่มีวิตก
ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่.
3. ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ มีอุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวย
สุขด้วยนามกาย เพราะปีติปราศจากไป เข้าถึงตติยฌาน ที่พระอริยเจ้า
ทั้งหลาย กล่าวสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข
ดังนี้.
4. ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ เข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์และสุข